Table of Contents
Toggleราคาบอลคืออะไร? มือใหม่ต้องรู้ก่อนเริ่มแทงบอลออนไลน์
หากคุณเป็นมือใหม่ที่เริ่มสนใจการแทงบอล สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงเงินเดิมพันจริงก็คือ “ราคาบอล” เพราะมันคือหัวใจของการคำนวณกำไร-ขาดทุน และเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการตัดสินใจแทง
บทความนี้จะพาไปรู้ว่า ราคาบอลคืออะไร, มีกี่ประเภท และวิธีดูราคาบอลแบบมืออาชีพ
ราคาบอลคืออะไร?
ราคาบอล (Odds) คือ “อัตราการจ่ายเงิน” ที่เจ้ามือกำหนดในการแทงแต่ละคู่ หากคุณชนะเดิมพัน ราคาบอลจะใช้ในการคำนวณว่าคุณจะได้กำไรเท่าไร
ประเภทของราคาบอลยอดนิยม
1. ราคาบอลแบบยุโรป (Decimal Odds)
รูปแบบ: ตัวเลขทศนิยม เช่น 1.85, 2.00, 2.25
วิธีคำนวณ: เงินเดิมพัน × ราคาบอล = เงินที่ได้รับ
ตัวอย่าง: แทง 100 บาท ที่ราคา 1.85 → ได้ 185 บาท (รวมทุน)
ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่มากที่สุด
2. ราคาบอลแบบฮ่องกง (HK Odds)
คล้ายแบบยุโรป แต่ ไม่รวมทุน
ตัวอย่าง: แทง 100 บาท ที่ราคา 0.95 → ได้กำไร 95 บาท (ไม่รวมทุน)
3. ราคาบอลแบบมาเลย์ (MY Odds)
มีทั้งแบบ “ราคาน้ำดำ” (เป็นบวก) และ “ราคาน้ำแดง” (ติดลบ)
หากน้ำแดง เช่น -0.90 แล้วแทง 100 บาท ถ้าชนะได้เต็ม 100 ถ้าแพ้เสียแค่ 90
เหมาะกับคนที่ต้องการลดความเสี่ยงเวลาแพ้
4. ราคาบอลไหล (Live Odds)
คือการเปลี่ยนแปลงของราคาบอลแบบเรียลไทม์ ก่อนและระหว่างการแข่งขัน
ราคาที่ไหลขึ้น/ลง สะท้อนสถานการณ์ในเกม เช่น นักเตะเจ็บ, ทีมพลิกเกม
เซียนบอลใช้ราคาบอลไหลเป็นตัวช่วยตัดสินใจแทง
วิธีอ่านราคาบอลแบบเข้าใจง่าย
แมนฯ ซิตี้ ต่อ ลิเวอร์พูล 0.5-1 (ราคาน้ำ 1.90)
“ต่อ 0.5-1” หมายถึง หากแมนฯ ซิตี้ชนะ 1 ลูก ได้ครึ่ง / ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม
“ราคาน้ำ 1.90” แทง 100 บาท ได้ 190 บาท (รวมทุน)
เทคนิคเลือกแทงตามราคาบอลให้ได้กำไร
หลีกเลี่ยงราคาครึ่งควบลูก ถ้าคุณยังไม่มั่นใจ เพราะความเสี่ยงสูง
เปรียบเทียบราคาบอลหลายเว็บ เพื่อเลือกเว็บที่ให้ค่าน้ำดีที่สุด
ดูราคาบอลไหลก่อนเริ่มเกม 30 นาที หากราคาผิดปกติ อาจมีข่าววงใน
ราคาสูงกว่า 2.00 ต้องระวัง เพราะเป็นราคาที่ความเสี่ยงสูง (จ่ายเยอะ เพราะโอกาสชนะน้อย)
สรุป: ราคาบอลคือหัวใจของการแทงบอล
หากคุณเข้าใจ ราคาบอล คุณจะสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแทงบอลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคายุโรป ฮ่องกง หรือมาเลย์ การเข้าใจพื้นฐานนี้จะช่วยให้มือใหม่ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้แน่นอน